 |
ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจ (8 ก.ค. 2560) [1318 Views]
|
ค่าย ดูคาติที่แจ้งเกิดในประเทศไทยและสามารถสร้างชื่อด้วยการเป็นแบรนด์บิ๊กไบค์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุด อย่างไรก็ดีด้วยสภาพการแข่งขันที่รุนแรง และการมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆเข้ามา ทำให้เค้กก้อนนี้ถูกแบ่ง และส่งผลด้านยอดขายของดูคาติในช่วงที่ผ่านมาลดลงต่อเนื่อง วันนี้ฐานยานยนต์ได้สัมภาษณ์ ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติ ไทยแลนด์ เกี่ยวกับแผนงานที่จะกู้ภาพลักษณ์ และยอดขายของพวกเขาให้กลับมา พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ตลาดนี้ว่าจะเป็นอย่างไร
**วิเคราะหตลาดบิ๊กไบค์
ดูคาติมองว่าการแข่งขันในตลาดเป็นสิ่งที่ดี การมีผู้เล่นจำนวนมาก มีหลายบริษัทเข้ามาลงทุนสร้างโรงงาน ล้วนแต่ส่งผลดีให้กับตลาดบิ๊กไบค์ และจะทำให้คนที่ไม่เคยสนใจรถบิ๊กไบค์ได้หันมามอง เพราะราคาเอื้อมถึงและมีความหลากหลาย รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งให้ตลาดรวมมีการขยายตัว เค้กหรือส่วนแบ่งตลาดนี้ก็จะใหญ่ขึ้น
**เป้าหมายของดูคาติ
ปีนี้เป็นปีที่ท้าทาย และเรายังคงเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาด 9% เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 1,500 คัน ส่วนยอดขายรวมของตลาดบิ๊กไบค์ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นคัน
**แผนงานกู้ยอดขาย
ในช่วง 2 ที่ผ่านมายอดขายของเราลดลง โดยมีปัจจัยหลักคือ ภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้คนไม่จับจ่ายใช้สอย ประการต่อมาคือเทรนด์ของรถบิ๊กไบค์ ที่เริ่มขยับมาสู่ความคลาสสิค วินเทจ ซึ่งรถของดูคาติจะอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ต ทำให้ไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ประการต่อคือจำนวนผู้เล่นในตลาดบิ๊กไบค์ที่มากขึ้น ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้ยอดขายเราลดลง
อย่างไรก็ตามดูคาติประเมินว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น โดยเรามองที่เป้าหมายระยะยาว และตระหนักว่าแก่นแท้ของเราคืออะไร และได้คำตอบที่ว่า เราเป็นรถสปอร์ต ดังนั้นจะยึดแนวทางต่อไป โดย 2- 3 เดือนข้างหน้านี้เราจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในกลุ่มซูเปอร์ สปอร์ต หลังจากนั้นปลายปีในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปจะมีรถอีกรุ่นมาเปิดตัว
ปัจจุบันดูคาติ มีราคาเริ่มต้น 3.99 แสนบาทในรุ่น มอนสเตอร์ 797 และแพงสุดคือ 1299 Panigale ลิมิเต็ด อิดิชั่น ราคา 5.7 ล้านบาท
**ปรับภาพลักษณ์
นอกจากเพิ่มยอดขายแล้ว สิ่งที่ดูคาติต้องการปรับปรุงคือ บริการหลังการขายและความเชื่อเรื่องอะไหล่แพง-ซ่อมแพง ดังนั้นจึงมีการปรับโครงสร้าง เริ่มตั้งแต่โปรแกรมสมาร์ท เซอร์วิส แพคเกจ ลดค่าเมทาแนนซ์ - อะไหล่ -ค่าแรง เฉลี่ย 42.5 % ซึ่งหลังจากเปิดโปรแกรมนี้ออกไปพบว่าลูกค้าที่แต่เดิมใช้ศูนย์ด้านนอก ก็หันมาเข้าศูนย์ดูคาติ และล่าสุดเดือน พ.ค.ได้ปรับลดอะไหล่ทุกรายการลงอีก 20% ซึ่งจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของรถดูคาติง่ายขึ้น
ด้านบุคลากร ได้จับมือกับฝั่งโรงงาน ด้วยการส่งช่างเทคนิคจากทั่วประเทศไปอบรมและเทรนนิ่งกับผู้เชี่ยวชาญที่โรงงาน เพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐานการบริการแบบเดียวกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีแผนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ จาก 13 แห่ง และภายในสิ้นปีจะเพิ่มอีก 2 แห่งได้แก่ ลพบุรี ,พิษณุโลก
**แผนงานด้านโรงงาน
โรงงานของดูคาติที่ระยอง ยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสามารถประกอบรถ 2 - 3 หมื่นคันต่อปี ส่วนตลาดส่งออกหลักได้แก่ จีน ,อินเดีย และบางรุ่นส่งไป สหรัฐอเมริกา
นอกจากการผลิตแล้ว แผนงานในส่วนของโรงงานได้มีการพูดคุยกับภาครัฐในการประสานความร่วมมือเกี่ยวกับสนามทดสอบ เพราะจะช่วยลดขั้นตอนและต้นทุน เนื่องจากปัจจุบันผู้ผลิตต้องส่งรถไปทดสอบที่ต่างประเทศ
| 
