|
ขอบคุณข้อมูล ไทยรัฐออนไลน์ (1 มิ.ย. 2019) [1266 Views]
|
เป็นสิ่งที่ถูกจับตาในเมืองไทยมาหลายปีสำหรับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนต่างกำลังร่วมกัน ขับเคลื่อนผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจัง รวมถึงพลังงานสะอาดในเวลานี้เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลก กำลังให้ความสำคัญ เหตุเพราะเป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือกระแสอีโคเลิฟเวอร์
อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำลังมองหายานพาหนะที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
Business On My Way สัปดาห์นี้ขอเอาใจผู้อ่านสายกรีนรักษ์โลก ไปรู้จักกับ MUV (มูฟ) ธุรกิจรถตุ๊กตุ๊กพลังงาน ไฟฟ้าเจ้าแรกในไทย ที่ตอนนี้เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่านอกจากจะเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์กับเศรษฐกิจสีเขียวแล้ว ยังช่วยให้การเดินทางของคนกรุงคล่องตัวขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์รถตุ๊กตุ๊กไทยให้ดูทันสมัย น่าใช้ไม่แพ้กับขนส่งสาธารณะอื่นๆ
ดร.มิก (กฤษดา กฤตยากีรณ) ประธานบริหาร หรือซีอีโอ บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด ผู้ก่อตั้งธุรกิจและเจ้าของแบรนด์มูฟ เล่าว่า มูฟเกิดจากการรวมตัวของ 4 ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงเชี่ยวชาญในเรื่องระบบรถไฟฟ้า และรถยนต์
โดยพวกเรามองเห็นปัญหาการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ทั้งมาตรฐานความปลอดภัย อัตราค่าโดยสาร รวมถึงความต้องการ ยกระดับยานพาหนะที่มีการประหยัดพลังงานให้เกิดขึ้นและใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการนำ เทคโนโลยีมาร่วมแก้ปัญหา การเดินทาง
รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามูฟ ได้รับการส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ซึ่งได้สนับสนุนทั้งเงินทุน องค์ความรู้ และผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนารถต้นแบบ รวมถึงศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ และเครือข่ายมหาวิทยาลัย ที่ได้ช่วยออกแบบและผลิตรถให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยตัวรถมีคุณสมบัติเด่นคือ โครงสร้างเป็น space frame และมีระบบควบคุมแบบ feedback control เพื่อควบคุมความเร็วและความสมดุลของรถ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำการพัฒนาระบบประจุแบตเตอรี่ เพื่อบริหารจัดการการประจุแบตเตอรี่ชนิดรวดเร็วภายในครึ่งชั่วโมงสำหรับใช้กับรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าในโครงการ ซึ่งถือเป็นรายแรกในไทยที่คิดค้นเทคโนโลยีดังกล่าวได้ รวมถึงมีการใช้ระบบ IoT ที่สามารถบอกสถานะการพลิกคว่ำและสถานภาพต่างๆของรถได้ตลอดเวลา และมีเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง
คุณมิก เล่าว่า ลูกค้าและผู้ใช้บริการเป้าหมายของมูฟคือกลุ่มคนที่ใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นหลัก รวมถึงคนที่ยังไม่มีกำลังซื้อรถ รวมถึงผู้ที่เดินทางไปใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที นอกจากนี้ยังได้เปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าบุคคลทั่วไป รวมทั้งองค์กรต่างๆสามารถใช้บริการ โดยเฉพาะการนำเที่ยวรอบเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เยาวราช พาหุรัด ถนนข้าวสาร
รถตุ๊กตุ๊กมูฟยังมีการจำหน่ายรถแบบสำเร็จรูปให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และคอนโดมิเนียม เพื่อนำไปใช้รับส่งผู้พักอาศัยในแต่ละโครงการอีกด้วย
นอกจากนี้ เพื่อให้ทันกับโลกยุคดิจิทัล คุณมิก เล่าว่า ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน MuvMi : มูฟมี ซึ่งเป็นแอปเรียกรถแบบ On-Demand คือ เรียกเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ โดยระบบจะบริหารจัดการให้ผู้ที่จะเรียกรถไปในเส้นทางเดียวกันหรือบริเวณใกล้เคียงกัน สามารถไปรถคันเดียวกันได้ ทั้งนี้ บริการดังกล่าวมีจุดรับส่งกว่า 140 จุดในกรุงเทพฯ ตามแนวเส้นทางรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถานที่ใกล้เคียง บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีอารีย์ ไปจนถึงรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสถานีกำแพงเพชร
ในส่วนของค่าบริการต่อเที่ยวเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 75 บาท ใช้บริการได้สูงสุด 6 ที่นั่งต่อรถ 1 คัน โดยเสียงตอบรับส่วนใหญ่จากผู้ใช้บริการ ต่างให้ความเห็นว่านอกจากเรื่องความคุ้มค่าด้านราคาค่าโดยสารแล้ว มูฟยังตอบโจทย์ด้านการใช้พลังงานทางเลือก และสอดรับกับแนวคิดสมาร์ทซิตี้ได้เป็นอย่างดี
งานนี้!!ใครที่ยังไม่เคยใช้บริการก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MuvMi ได้ทั้งทาง Google Play และ App Store หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.muvmi.co , Facebook.com/Muvmi กันด่วนๆได้เลย.
|