|
ขอบคุณเนื้อหา ฐานเศรษฐกิจ (16 เม.ย. 2020) [2816 Views]
|
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวร้าย โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกันเป็นวงกว้างทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทยในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนหางเลขเข้าไปด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในตอนนี้คือ การปิดโรงงานผลิตรถยนต์ชั่วคราวตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม- พฤษภาคม
อย่างไรก็ดียังมีค่ายรถบางเจ้าที่ประกาศเดินหน้าทุกช่องทาง นั่นก็คือน้องใหม่อย่าง เอ็มจี ซึ่งวันนี้หัวเรือใหญ่อย่าง พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมาบอกเล่าให้ฟังถึงแผนงาน รวมไปถึงฉายภาพของวิกฤติในครั้งนี้ว่าจะกระทบกับอุตสาหกรรมได้มากน้อยขนาดไหน
ผลกระทบจากโควิด-19
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทยถ้าดูจากสถานการณ์และมาตรการต่างๆ ยังถือว่าดีกว่าหลายประเทศ ซึ่งเราคาดการณ์เบื้องต้นว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวเร็วกว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ได้เห็นในช่วงภาวะวิกฤติครั้งนี้คือ โควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้ดิสรัปชันมาเร็วกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ ทำให้ทุกธุรกิจต้องมีการปรับตัวและปรับเปลี่ยน กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
แนวทางการปรับตัว
ในส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เห็นกระทบอย่างชัดเจนคือ การจัดกิจกรรมในรูปแบบโรดโชว์ หรืออีเวนต์ใหญ่นั้นไม่สามารถที่จะจัดขึ้นได้ ทำให้แต่ละแบรนด์ตอนนี้หันมาใช้แคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานในลักษณะออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมถึง เอ็มจี ที่ล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัว เอ็มจี แซดเอส ใหม่ ผ่านการ live streaming ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในรูปแบบออนไลน์ครั้งแรกของเราและได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี รวมไปถึงการดูแลลูกค้าที่เข้ามาที่โชว์รูม ซึ่งมีมาตรการในการดูแลลูกค้า และการนัดหมายลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากที่สุด
แผนงานรองรับ
ถ้าประเมินในระยะสั้นนั้นคงต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไป แต่ถ้าในระยะยาว อย่างการเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ที่เราได้วางไว้ ตรงนี้ยังคงดำเนินงานตามแผนเดิม ส่วนการขยายเครือข่ายยังคงเดินหน้า ล่าสุดเพิ่งเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานเพิ่มอีก 2 แห่ง ในจังหวัดแพร่ และสกลนคร ภายใต้ชื่อ เอ็มจี แพร่ และ เอ็มจี พิจิตรเพชร สกลนคร และตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้จะเปิดทั้งสิ้น 150 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศไทย
โรงงานต้องปรับแผนหรือไม่
แผนการผลิตของเรานั้น ตามปกติจะวางแผนผลิตล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งแผนอีก 3 เดือนข้างหน้า เราได้วางแผนไว้แล้ว และเดินหน้าตามแผนเดิม ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ โดยตอนนี้บริษัทยังคงดำเนินงานตามแผนเดิม เนื่องจากช่วง มีนาคม-เมษายน เป็นช่วงที่มีวันหยุดหลายวัน ซึ่งการผลิตในช่วงดังกล่าว ไม่สูงอยู่แล้ว ดังนั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จึงไม่กระทบต่อแผนการดำเนินงานในช่วงนี้มากนัก
ส่วนการจะปิดโรงงานชั่วคราวหรือไม่นั้น ตามปกติการหยุดผลิตของแต่ละค่ายรถในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นนโยบายจากบริษัทแม่ ซึ่งเอ็มจีเราก็จะพิจารณาจากการระบาดในพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีแผนในการหยุดหรือปิดโรงงาน
เป้าหมายยอดขาย
คงต้องรอดูสถานการณ์ในภาพรวมก่อน แต่เบื้องตันเรายังอยากได้มากกว่า 4 หมื่นคัน ขณะที่ยอดขายในปี 2562 นั้นเราทำได้ 26,516 คัน โดยยอดขายหลักๆ มาจาก เอ็มจี แซดเอส 12,943 คัน, เอ็มจี 3 จำนวน 7,763 คัน, เอ็มจี เอชเอส 2,003 คัน, เอ็มจี แซดเอส อีวี 1,197 คัน, เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ 482 คัน, เอ็มจี วี 80 จำนวน 319 คัน และรุ่นอื่นๆ 1,809 คัน
|