|
ขอบคุณข้อมูล คมชัดลึก (13 ม.ค. 2020) [2988 Views]
|
ในช่วงน้ำมันทุกชนิดต่างทยอยปรับราคาจากเหตุการณ์ในตะวันออกกกลางทำให้หันมานึกถึงพลังงานทางเลือกเลยนึกถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า งั้นวันนี้ต้องขออนุญาตนำเรื่องราวของรถยนต์ไฟฟ้า หรือยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ผู้เขียนได้สัมผัสจริงไม่ใช่แค่เห็นแต่เป็นการขับจริง ขอเริ่มคันที่ประทับใจมากสุดก็คือ จากัวร์ ที่นำจากัวร์ไอ-เพซอีวีเข้ามาขาย เรียกเสียงตอบรับจากแฟนๆ ของเสือจากัวร์ได้อย่างจังพร้อมยอดจองที่น่าชื่นใจถึงแม้ราคาจะโหดร้ายกับเงินในกระเป๋าแต่แฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบรุ่นนี้ก็พร้อมควักเงินรางวัลการันตีติดตัวมามากมายและยังถือเป็นผู้นำในการขับรถยนต์รักษ์โลกก่อนใคร ขอวกกลับมาค่ายญี่ปุ่นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามานานก่อนใครอย่างนิสสันก็นำนิสสันลีฟ เข้ามาจำหน่ายในราคาที่หลายคนสะดุ้งและค่ายรถที่เรียกกระแสยอดจองแบบถล่มทลายเมื่อปี 2562 ก็คือเอ็มจีที่นำ เอ็มจีแซดเอสอีวี รถยนต์ไฟฟ้ามาจำหน่ายพร้อมราคาที่จับต้องได้
เกริ่นยาวขนาดนี้งั้นขอเล่าถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้ประจำปี 2563 นี้ กันเลยครับ
1.จากัวร์ไอ-เพซอีวี
รถยนต์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ พร้อมหลังแอโรไดนามิกส์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.29 ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 4.8 วินาที ขุมพลังของ จากัวร์ไอ- เพซ 2019 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัวให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 696 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ทุกรุ่นย่อยสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.8 วินาที
ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ติดตั้งอยู่ระหว่างเพลาขับหน้าหลังโดยติดตั้งในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำรองรับการขับขี่ระยะทางสูงสุด 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง การชาร์จไฟสามารถอัดไฟได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ได้ในเวลา 20-40 นาที เมื่อชาร์จไฟแบบ DC Rapid Charging ขนาด 100 กิโลวัตต์ ส่วนการชาร์จด้วยไฟบ้านผ่าน AC Wall Box ขนาด 7 กิโลวัตต์ ต้องใช้เวลาราว 10 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ระดับไฟเทียบเท่ากัน
และนี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุดจากการได้ใช้ชีวิตในการขับด้วยกันถึง 48 ชั่วโมง จากราคาที่คิดว่าแพงมากๆ แต่พอขับจริงแล้วถ้ามีเงินในกระเป๋าผมจะควักซื้อจริงๆ เพราะผมไม่คิดเลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะตอบสนองได้เร็วทันใจ รถพร้อมจะทยานไปข้างหน้าทุกครั้งเพียงแตะคันเร่งไม่มีระบบเกียร์มาให้สับสนแค่ปุ่มกดเดินหน้าถอยหลังเท่านั้น! ไอ-เพซอีวี ต้องยกเป็นรถที่หนึ่งในดวงใจ
JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD S ราคาจำหน่าย 5,499,000 บาท
JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD SE ราคาจำหน่าย 6,299,000 บาท
JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD HSEราคาจำหน่าย6,999,000บาท
การรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร และรับประกันคุณภาพรถอีก 5 ปี บริการซ่อมบำรุงรักษาฟรี 5 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี อีกด้วย
2.เอ็มจี แซดเอสอีวี
รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกที่ยกให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา การตอบสนองนี่ไม่แพ้เบอร์หนึ่ง แต่ด้วยที่กำลังมอเตอร์น้อยกว่า และมีเพียงมอเตอร์ตัวเดียว แต่การตอบสนองคันเร่งไม่ธรรมดา และเหนือกว่ารถยนต์ระบบสันดาปที่ไม่จำกัดซีซี ต้องหลบให้เมื่อมองกระจกหลังเห็น สีตัวถัง สีฟ้า Copenhagen Blue เอกลักษณ์รถแซดเอสอีวีเท่านั้น!
เอ็มจีแซดเอสอีวี สามารถ Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 44.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง วิ่งได้ระยะ 337 กิโลเมตร กระจังหน้าทันสมัยพร้อมจุดชาร์จไว้บริเวณหลังกระจังหน้าล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รถที่เชื่อมกับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลที่มาพร้อมระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 และโดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาตามสไตล์เอ็มจีไปแล้ว
ภายใต้แผนงานจะประกอบไปด้วย การกำหนดอัตราสิ้นเปลืองพลังงานสำหรับรถยนต์ที่ผลิตขึ้นมาใหม่ ที่เป็นสันดาปภายใน มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ซึ่งรวมไปถึงรถยนต์พลังงานผสม โดยกำหนดให้ภายในปี 2020 ต้องมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร จากนั้นในปี 2025 อัตรา 4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และในปี 2030 อัตรา 3.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร รวมไปถึงเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ประหยัดพลังงานที่เป็นตราสินค้าของตัวเอง ให้เป็น 40% ของรถยนต์ที่จำหน่ายทั้งหมด และต้องผลิตชิ้นส่วนสำคัญในประเทศให้ได้ 50% ของชิ้นส่วนทั้งหมด
NEW MG ZS EV จำหน่าย ราคาเพียง 1,190,000 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพรถ 4 ปี หรือ 1.2 แสนกิโลเมตร และรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 1.8 แสนกิโลเมตร
3.นิสสันลีฟ
นิสสัน ลีฟ เป็นรถที่ได้ทดสอบมากกว่าใครทั้งในเมืองนอกเมืองต้องบอกเลยว่าขับครั้งแรกๆ ไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไรนักเพราะเราไปสัมผัสความแรงจากรุ่นอื่นพอมาขับในเมืองธรรมดาเหมือนรถทั่วไปทำให้รู้สึกถึงราคาค่าตัวที่สูงเอาเรื่องแต่ความรู้สึกเปลี่ยนไปพอได้ลองขับทางไกลแล้วนำนิสสันลีฟไปปีนดอยถึงเห็นประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้และเเทคโนโลยีที่นิสสันคิดค้นมาใส่ไว้ในรถบอกเลยว่านิสสันลีฟเป็นรถที่เป็นมิตรต่อผู้ขับจริง
นิสสัน ลีฟ คันนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า e-powertrain ส่งกำลังมากถึง 110 กิโลวัตต์ 150 แรงม้าที่ 3238-9795 รอบต่อนาที มีแรงบิดมากถึง 320 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 7.9 วินาที ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง และหัวใจสำคัญคือเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ อี-เพดัล ราคาจำหน่าย 1,990,000 บาท
การประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร อีกด้วย
4. FOMM One
คันสุดท้ายที่เราได้ลองขับเป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็กกะทัดรัดนั่งได้ถึง 4 ที่นั่งครั้งแรกที่ได้ขับต้องบอกเลยว่าต้องปรับตัวมากๆ เพราะคันเร่งมาอยู่ที่ปลายนิ้วทั้งสองข้างถือว่าแปลกแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปรับตัวไม่ได้ด้วยที่มีขนาดเล็กการตอบสนองถือว่าทันใจยิ่งช่วงจอดติดไฟแดงเป็นคันแรกออกตัวมีมอเตอร์ไซค์เคืองเป็นแถวเพราะรถอะไรออกตัวเหนือกว่าสองล้อทั่วไป
ขุมพลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าในดุมล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง ขนาด 5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 13 แรงม้า แรงบิดสูง 560 นิวตันเมตร ซึ่งถีบให้รถวิ่งได้เร็วสูงสุด 80 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 160 กิโลเมตร
โดยทาง FOMM ประกาศว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยอัตราสิ้นเปลืองเพียง 30 สตางค์ต่อกิโลเมตร ด้วยการชาร์จในระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพียง 68 ชั่วโมงและสามารถวิ่งได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร สุดท้าย FOMM One สามารถลอยน้ำได้เอาตัวรอดในเวลาที่มีน้ำท่วมสูงอย่างที่เกิดขึ้นที่ จ.อุบลราชธานี
ราคาจำหน่าย 664,000บาท
และนี่คือ 4 คันของรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในบ้านเราจาก ที่ได้ลองไปขับมา ทุกคันถ้าเพื่อนอยากสัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าหรือยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle ก็สามารถแวะไปทดลองกันดูนะครับ แล้วจะลืมรถในระบบสันดาปไปเลยแต่ก็ต้องฝากถึงภาครัฐให้พัฒนาต่อยอดทั้งระบบควรสนับสนุนให้เกิดสถานีชาร์จทั่วประเทศกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหลายร่วมมือกันบ้างก็ดีครับ ประชาชนคนไทยจะได้มีโอกาสเพราะนี่ก้าวต่อไปของยานยนต์ประเทศไทย
|