|
ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจ (17 ก.ย. 2019) [3478 Views]
|
นางวรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮาส์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตร ( TAITA : ไททา) เปิดเผยว่า จากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้ง และอุทกภัยในเวลาใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน กระทบต่อผลผลิตด้านการเกษตร โดยเฉพาะข้าว และอ้อย ให้ปรับตัวลดลง ซึ่งจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจภาคเกษตรปี 2562 ให้ไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งปฏิรูปภาคเกษตรอย่างจริงจัง นำนวัตกรรมเข้ามาใช้ เพื่อติดอาวุธให้เกษตรกรไทย เพื่อลดผลกระทบ จากการสูญเสีย เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ โดยนวัตกรรมช่วยสร้างศักยภาพเพาะปลูก ดูแลผลผลิต และลดการสูญเสีย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่ง โดยลดต้นทุนให้เกษตรกรรายย่อยและขนาดกลางจะช่วยเพิ่มรายได้ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งหนึ่งใน 3 ของประชากรไทยอยู่ในภาคเกษตรกรรม
ไททา ในฐานะตัวแทนบริษัทอุตสาหกรรมพืชศาสตร์ มุ่งเน้นการวิจัย และพัฒนา ปรับปรุงด้านการเกษตรทุกมิติ ภายใต้งบประมาณ มากกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี ยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการเป็น พี่เลี้ยงในการส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกรไทยมีความรู้ และใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตด้านการเกษตร ซึ่งมั่นใจว่าเกษตรกรในท้องถิ่น ธุรกิจการเกษตรและผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่นี้
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาความก้าวหน้าทางการเกษตร ในการเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพ ในการทำการเกษตร อย่างเห็นได้ชัด อาทิ โดรนถือเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความปลอดภัย และความแม่นยำของการอารักขาพืชและยัง ช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้หันมาทำงานในการเกษตรแบบก้าวหน้าได้เป็นอย่างดี
|