ท่ามกลาง สภาวะราคาน้ำมันที่สุดแสนจะผันผวน บริษัท โตโยต้า ประเทศไทย อาศัยวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการเปิดตัว "ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี" ลงสู่ตลาดปิกอัพเมืองไทย
คราวนี้ กระบะสายพันธุ์แชมป์คันนี้มาพร้อมด้วยระบบเชื้อเพลิง 2 ระบบ (เบนซิน ซีเอ็นจี) ใน 2 รุ่นเกียร์ธรรมดา ได้แก่ รุ่น สมาร์ทแค็ป และ รุ่น สแตนดาร์ทเค็ป บนพื้นฐานการออกแบบและติดตั้งทั้งระบบโดยตรงจากโรงงานโตโยต้า ที่งานนี้เน้นย้ำเลยว่า ทุกชิ้นส่วน ทุกการออกแบบ ได้รับการรับรองมาตรฐานในทุกรายละเอียดจากประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย ซึ่งเป็นการผลิตสำเร็จจากโรงงาน ไม่มีการตัด-เจาะ ใดๆ พร้อมทั้งการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาทิ การทดสอบการชนมาตรฐาน GOA ทั้งด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง
ไม่เท่านั้นในส่วนของเครื่องยนต์ยังมีการเพิ่มความทนทานเข้าไปอีกด้วยวัสดุเสริมบ่าวาล์วใหม่ ที่มีการเคลือบผิววาล์วไอเสียให้เครื่องยนต์ทนทาน รองรับการใช้งานระบบก๊าซซีเอ็นจี ด้วยการออกแบบ ท่อร่วมไอดีออกแบบพิเศษ ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง, รวมถึงการออกแบบตำแหน่ง ช่องรับก๊าซให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรมเพื่อความทนทานและปลอดภัย
ส่วนระบบความปลอดภัยของเจ้ากระบะสายพันธุ์แชมป์คันนี้ ได้รับการใส่ใส่ใจในมาตรฐาน ความปลอดภัยด้วยการออกแบบ โครงการเสริมพิเศษ ใต้กระบะซึ่งเพิ่ม แนวคานเหล็กเพิ่มความหนาขึ้นกว่า 90% เพื่อยึด-ป้องกันถังก๊าซได้อย่างแน่หนา ที่มาพร้อมด้วยโครงสร้างนิรภัย (ฝาครอบ) สำหรับวาล์วหัวถัง ป้องกันแรงกระแทกเมื่อเกิดการชนจากด้านข้างบริเวณหัวถัง อีกทั้งวาล์วหัวถังนิรภัย ด้วยระบบความปลอดภัยถึง 5 ชั้น
ส่วนหัวใจสำคัญขุมพลังเครื่องยนต์คันนี้ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 VVT-I เอกสิทธิ์หนึ่งเดียว ใน ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี" ซึ่งออกแบบเป็นพิเศษเพื่อรองรับการใช้งานในระบบหัวฉีดก๊าซซีเอ็นจีโดยเฉพาะ ที่ให้ แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุด 241 นิวตัว-เมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที
ซึ่งงานนี้ โตโยต้า เคลมไว้ว่า เครื่องยนต์ตัวนี้เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วจะให้พละกำลังสูงที่รอบต่ำ หรือเรียกได้ว่า วิ่งดีกว่า ประหยัดกว่า
ส่วนระบบเกียร์ของ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เท่านั้น
เริ่มขับจริงด้วยเส้นทาง กรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ซึ่งงานนี้ โตโยต้า จำลองเสมือนการขนของในกระบะจริง ด้วยการ เพิ่มน้ำหนักบรรทุกกันแบบเต็มๆ ในรุ่น สมาร์ทแค็ป จำนวน 300 กิโลกรัม และ ในรุ่น สแตนดาร์ท แค็ป จำนวน 400 กิโลกรัม
รวมๆแล้วภายในไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีเพิ่มเติมขึ้นมาก็มีแต่ สวิตช์สั่งการระบบซีเอ็นจีพร้อมจอแสดงผล ที่ตำแหน่งถูกวางไว้อยู่บริเวณใต้พวงมาลัยฝั่งขวา ซึ่งจอแสดงผลระบุชัดเจนดีถึงข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะระบุแรงดันก๊าซให้ด้วย ตรงนี้ถือได้ว่าแสดงข้อมูลได้ละเอียดดี แต่ติดอยู่อย่างหนึ่งที่ตำแหน่งวางของสวิตช์นี้ อยู่ในระดับต่ำเกินไป ซึ่งอาจจะใช้งานยากเสียหน่อยเพราะต้องก้มหาดูว่าปุ่มกดมันอยู่ตรงไหน ถ้าให้ดีปรับให้มันขึ้นมาอีกสักนิด ท่าจะดี
ถึงจังหวะเพิ่มความเร็วขณะใช้ซีเอ็นจี อัตราตอบสนองของเครื่องยนต์ ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แม้จังหวะเร่งแซงก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาในทางตรงทางเรียบปกติ พอมาถึงจังหวะทางโค้งขึ้นเขาแผงม้า ในสภาวะรถเยอะต่อเนื่อง ต้องใช้เกียร์ต่ำ 2 3 ในการเรียกกำลัง ซึ่งถือว่าจังหวะออกตัวจังหวะเรียกกำลังลาก ไม่ขี้เหร่เลย
จะมีให้เห็นบ้างแต่ก็เล็กน้อย ซึ่งก็ถือว่า "รับได้"
เข้าช่วงขับกินลมชมวิวในระยะสั้นๆ เลยได้ลองสลับระบบจากก๊าซซีเอ็นจีเป็นน้ำมันเบนซิน จังหวะสลับของเครื่องยนต์ ต้องขอชมเลยว่า นิ่งมาก จนไม่รู้สึกเลยว่าเครื่องยนต์สะดุดหรือมีอาการอะไร
เช่นเดียวกันกับตอนที่ก๊าซหมดระบบจะมีเสียงร้องเตือนจากนั้นก็จะสลับให้อัตโนมัติ
ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับระบบเลย
มาถึงระบบช่วงล่างที่ทุกคนจะเป็นห่วงเมื่อติดตั้งถังก๊าซที่มีขนาดและน้ำหนักมากเข้าไป
จากการทดลองต้องบอกเลยว่า รถกระบะจะได้เปรียบกว่ารถยนต์นั่งในเรื่องตำแหน่งการวางอยู่แล้ว ประกอบกับการออกแบบคานรับเสริมแรงของ โตโยต้า เข้าไปอีก ฉะนั้นแล้ว จึงหายห่วงเรื่องช่วงล่างได้
และเมื่อติดถังก๊าซเข้าไปแล้ว
แน่นอนล่ะว่าพื้นที่กระบะจะหายไปอย่างแน่นอน
แต่เมื่อเทียบในรุ่นเดียวกันกับคู่แข่ง โตโยต้า เคลมไว้อีกว่า พื้นที่กระบะในรุ่น สมาร์ทแค็ป ของ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี มีพื้นที่เหลือเยอะกว่าอย่างแน่นอนที่ ยาวxกว้างxสูง 1668x1520x450 มม. เยอะกว่าในคู่แข่งในรุ่นเดียวกันที่มีพื้นที่ 1600x1470x450 มม.
สำหรับอัตราประหยัดของ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี ตัวนี้เต็มถังสามารถวิ่งได้ประมาณ 300 กิโลเมตร ซึ่งลดครั้งในการต้องเติมก๊าซได้ ซึ่งจากการทดสอบด้วยการขับขี่ที่ใช้ในชีวิตประจำวันถือได้ว่าอยู่ในระดับประมาณ 270 -280 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับอัตราที่เคลมเอาไว้ ซึ่งโดยรวมแล้วรถคันนี้เหมาะกับสภาวะที่ต้องรัดเข็มขัดกับการประหยัดราคาพลังงานสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกระบะ รวมถึง ผู้ที่ใช้สำหรับการพาณิชย์และการขนส่ง
ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี ตัวนี้มีให้เลือก 3 สีได้แก่ ขาว, บรอนซ์เงิน, บรอนซ์ทอง ใน 2 รุ่นคือ สแตนดาร์ทแค็ป ราคา 622,000 บาท และ สมาร์ทแค็ป ราคา 724,000 บาท
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ [17939 Views]
|