• หน้าแรก
  • รุ่นรถยนต์/อีวี
  • รุ่นจักรยานยนต์
  • รุ่นรถแทรกเตอร์
  • รถเกี่ยวข้าว/Smart Farm
  • เครื่องยนต์อเนกประสงค์
  • ค้นหาผู้จำหน่าย
  • กระดานซื้อขาย/MotorShow
  • ข่าวเด่นรถยนต์Œ/รีวิวรถยนต์
  • ติดต่อโฆษณา

รีวิวรถยนต์-อีวี ลำดับ : 370118

รอบรู้รถยนต์ | รอบรู้จักรยานยนต์ | รีวิวรถยนต์ | รีวิวรถกระบะ | รีวิวจักรยานยนต์

ข่าวรถยนต์-รถอีวี | ข่าวรถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ | ข่าวรถแทรกเตอร์-เกษตรอัจฉริยะ


HONDA e:N1 ดีกว่าที่คิด
EVน่าขับ แรงดี สมดุล ไม่ต้องปรับตัว




ฮอนด้า เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) รุ่นแรกในไทย โดยเปิดสายการผลิต Honda e:N1 ที่โรงงาน ปราจีนบุรี ซึ่งแฟนฮอนด้าหลายคนที่รอคอยการมาของ อีวี มายาวนาน น่าจะไม่ผิดหวังกับเรื่องของสมรรถนะ การขับขี่ ยกเว้นอย่างเดียว คือ ถ้าอยากจะซื้อมันมาครอบครอง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) เติบโตอย่างรวดเร็ว มีรถรุ่นใหม่ ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้บริโภคบางส่วนก็ถามถึงและรอคอยการขยับตัวของฝั่งญี่ปุ่นที่ดูเหมือนจะเงียบๆ

แต่จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ ก็มีความเคลื่อนไหวจากฝั่งญี่ปุ่นคือโตโยต้าที่นำเข้า bZ4X มาทำตลาด ซึ่งเมื่อเปิดตัวก็ได้รับความสนใจมาก แต่โตโยต้าก็ไม่เน้นทำตลาดมากมายอะไรนัก รถมีจำนวนจำกัด

ล่าสุดเป็นความเคลื่อนไหวของฮอนด้าที่ยกระดับไปอีกขั้น ด้วยการประกอบ อีวี ในไทยทันทีที่โรงงานปราจีนบุรี แต่ "Honda e:N1" อีวีรุ่นแรกของฮอนด้าไม่เปิดขาย แต่ใช้วิธีให้เช่าแทนผ่านพันธมิตร 12 ราย ในระดับราคาเริ่มต้นเดือนละ 2.9 หมื่นบาท สำหรับเงื่อนไขการเช่า 48 เดือน

ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ ลูกค้ารู้ค่าใช้จ่ายที่แน่นอน กับค่าไฟที่ชาร์จเท่านั้น ส่วนรายจ่ายอื่นๆ รวมถึงยางทางฮอนด้าจัดการให้ โดยจะเปลี่ยนทุกๆ 5 หมื่น กม. หรือว่าแบตเตอรี 12 โวลต์ ก็จะเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี เป็นต้น

ราคานี้คุ้มไม่คุ้มอยู่ที่รูปแบบการใช้งานของแต่ละคน และที่มองข้ามไม่ได้ คือ ความชอบของแต่ละคน และสำหรับผม ที่เพิ่งไปลองขับมา บอกตอนต้นนี้เลยว่าชอบครับ

มีจุดที่ผมอยากพูดถึงสักสองสามอย่าง หนึ่งคือ e:N1 เป็นรถ และมีกลิ่นอายของฮอนด้าชัดเจน สองเป็นรถที่มีความสมดุล ขับได้เนียน และสามคือ ไม่มีความอุ้ยอ้ายของอีวี

แน่นอนหากไปดูกันที่สเปค หลายคนที่เสพติดกับตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ว่ากันระดับตัวเลขน้อยๆ อาจจะถามว่า e:N1 ที่ใช้เวลา 7.7 วินาที โอไคไหม

ฮอนด้าตอบชัดเจนตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้วที่ได้ไปที่ Honda Proving Ground ที่เมืองโตชิกิ ว่าเขาต้องการเซ็ทรถที่เป็นมิตรกับทุกคน ไม่เฉพาะคนขับ แต่รวมถึงคนอื่นๆ ในรถด้วย ที่ต้องได้รับความสะดวกสบายเช่นกัน

จริงไม่จริงคงต้องตอบกันเอง เพราะมุมมองแต่ละคนอาจต่างกัน แต่สำหรับผม ผมว่ามันเป็นเรื่องดี เพราะการใช้งานจริงมันลงตัว และจะมีใครสักกี่คนที่ออกตัวทุกครั้งหรือบ่อยครั้งแบบ 0-100

ผมว่าไม่ใช่เรื่องยาก หรือจะบอกว่าเป็นเรื่องง่ายก็ได้สำหรับอีวีที่จะทำให้อัตราเร่งดุดันขนาดนั้น อยู่ที่ว่าใครจะทำหรือไม่ทำเท่านั้น

แต่อัตราเร่ง หรือการใช้ประโยชน์จากแรงบิด ผมมองที่การใช้งานจริง เช่น การเรียกกำลังมาในช่วงจังหวะจะเร่งแซง เมื่อกำลังขับอยู่ในความเร็วต่ำหรือปานกลาง ซึ่งเจ้า e:N1 ก็ให้คำตอบแล้วกับการลองขับครั้งนี้ในเส้นทางที่หลากหลายจากบางชัน ขึ้นมอเตอร์เวย์ไปลงรังสิต-นครนายก ต่อไปถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล ก่อนย้อนกลับมาเส้นทางเดิมรวมแล้วประมาณ 220 กม.

อัตราเร่งดีครับ แซงได้รวดเร็ว เปลี่ยนช่องทางไปมาเพื่อหลบรถคันอื่นที่เต็มถนนได้อย่างสบายใจ และช่วงทางโค้งออกจากโค้งได้เร็ว ทางขึ้นเนินกำลังมาได้สบายๆ ทำให้การปีนไต่ราบรื่นไม่เสียเวลา การควบคุมรถทำได้ง่ายๆ ไม่ยาก

รถเปรับเปลี่ยนช่องทาง หรือเข้าออกโค้งได้อย่างสมดุล การให้ตัวของตัวถังน้อย การยึดเกาะถนนของล้อหน้าแม่นยำ และอย่างที่บอกว่า อีวี จะมีน้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาไม่น้อยจากแบตเตอรี แต่คันนี้เมื่อขับไม่ทำให้รู้สึกถึงน้ำหนักส่วนเกิน

พูดง่ายๆ ไม่อุ้ยอ้าย โดยเฉพาะจังหวะการเปลี่ยนช่องทาง เข้าออกโค้ง หรือแม้แต่จังหวะเร่งความเร็ว หรือเบรก

มันให้อารมณ์ที่แทบจะไม่ต่างจากรถที่ใช้เครื่องยนต์ พูดง่ายๆ ถ้าใครที่ไม่เคยขับอีวีมาก่อน โดดขึ้น e:N1 ก็สามารถขับได้ทันที โดยไม่รู้สึกแปลกแยกหรือเกร็งอะไรกับมัน จากต่างบ้างก็ตรงที่อัตราเร่งมันกระฉับกระเฉงมากขึ้น

เป็นรถที่ใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ HR-V ซึ่งเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนชื่นชอบ รวมถึงการขับขี่ แต่ว่าถ้ามาขับ e:N1 เชื่อว่าจะคิดเหมือนผมว่าเจ้าอีวีคันนี้มันขับดีกว่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของสมรรถนะ แต่รวมถึง Handling จังหวะให้ตัวที่น้อยกว่า

ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ชอบนัก คือ แบตเตอรีที่เห็นมันห้อยเล็กน้อยอยู่ใต้ท้องรถ ด้วยความที่สร้างจากแพลตฟอร์มเดิม แต่นั่นเมื่อรวมกับโครงสร้างรถโดยรวมที่ความสูงลดลงจาก HR-V 3 ซม. ทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากได้ คือน้ำหนักพวงมาลัย ที่อยากได้หนักกว่านี้ ซึ่งจะรองรับอารมณ์สปอร์ตได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับสเปคโดยรวมของ e:N1
-ขับเคลื่อนล้อหน้า
-กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
-แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
-ความจุแบตเตอรี 68.8 kWh
-ระยะทางขับขี่สูงสุด 500 กม. (NEDC)

อีกจุดหนึ่งที่ฮอนด้าเซ็ตมาก็คือ การรีเจนฯ หรือ การชาร์จไฟกลับเมื่อถอนคันเร่ง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการที่เราเรียกกันว่าแรงหน่วง ซึ่งเลือกได้ 3 ระดับ ด้วยแป้นควบคุมที่พวงมาลัยเหมือนกับแพดเดิลชิฟท์นั่นแหละครับ แต่ต่อให้ตั้งแบบหน่วงมากที่สุด ก็ยังไม่ได้หน่วงมากนัก พูดง่ายๆ คือ ยกเท้าจากคันเร่ง จะไม่มีอาการแบบหัวทิ่มแน่นอน น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารชื่นชอบ

ยกเว้นถ้าเลือกขับด้วยโหมดสปอร์ต แรงหน่วงจะเพิ่มขึ้น เข้าใจว่าเพื่อต้องาารให้เกิดการทำงานแบบเอนจิ้นเบรกในรถที่ใช้เครื่องยนต์มากขึ้น เพราะว่าหากปรับมาใช้โหมดสปอร์ตมันจะดุดันขึ้นชัดเจน แตะคันเร่งนิดหน่อยรถพุ่งไปอย่างเร็วครับ

ในมุมผมใช้ นอร์มอล ก็เพียงพอ และสนุกแล้วครับ และ 90% ของการขับครั้งนี้ก็ใช้ นอร์มอล ที่เหลือก็แค่ลองๆ สปอร์ต กับ อีโค เล็กน้อยเท่านั้น

ในแง่การออกแบบ อีกสิ่งที่ผมชอบ คือ รายละเอียดของรถบางอย่างที่ไม่ทิ้งของเดิมๆ อย่างเช่น มันมีปุ่มสตาร์ต/สต็อป มาให้ ขณะที่อีวีปัจจุบันหลายรุ่นไม่มีมาให้ แต่เพียงแค่เข้าไปในรถโดยมีรีโมทอยู่กับตัวระบบมันก็เริ่มทำงานอัตโนมัติ ระบบต่างๆ เปิดขึ้นมา เมื่อจะเดินทางก็แค่เหยียบเบรกเข้าเกียร์จะด้วยวิธีกด โยก หมุน ก็แล้วแต่การออกแบบ พอจอดรถก็แค่เข้าเกียร์ P แล้วลงจากรถได้เลย

แต่ผมยังชอบปุ่มสตาร์ต/สต็อป อยู่ครับ หรือว่าเรามันเป็นคนรุ่นเก่าไปเสียแล้ว

สำหรับภาพรวมของ e:N1 อย่างที่บอกไปว่าใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ HR-V แต่สิ่งที่แตกต่างคือภายนอกมีความยาวมากกว่า 5 มม.ความกว้างเท่ากัน ความสูงเตี้ยกว่า 3 ซม.

กระจังหน้าเป็นแบบกริลเลส และติดตั้งจุดชาร์จไฟแบบมีฝาปิดเก็บงานเรียบร้อยมาให้ ก็น่าะจะสะดวกในการชาร์จเพราะไม่ต้องเล็งว่าจะเอาด้านซ้ายหรือด้านขวาเข้าไปดี แต่หลายคนก็กังวลกรณีถ้าเกิดอุบัติเหตุ เอาหน้ารถไปจิ้มอะไรเข้าแรงๆ

นอกจากนี้ก็ย้งมีความแตกต่างที่ล้อ ซึ่งคันนี้ใช้ล้อ 18 นิ้ว และยางขนาด 225/50 R18 นอกจากนี้โลโก้ H mark ก็ต่างออกไป และด้านท้ายไม่มีโลโก้ แต่ติดตัวอักษร honda มาแทน

ภายในห้องโดยสารจุดที่แตกต่างชัดเจนคือ คอนโซลหน้าที่ออกแบบใหม่รองรับมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 15.1 นิ้ว วางแนวตั้ง และที่น่าสนใจ คือ จอแบ่งเป็น 3 โซน ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยโซนบนสุด เกี่ยวกับเรื่องของคอนเนคท์ เช่น การเชื่อมต่อแอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ แบบไร้สาย รวมถึงแอนดรอยด์ ออโต้ และอื่นๆ

โซนกลาง เป็นดาต้า โซน ข้อมูลต่างๆ เลือกดูเลือกปรับได้จากตรงนี้ และด้านล่างเกี่ยวกับระบบปรับอากาศ และฮอนด้าเพิ่มแอมเบียนท์ไลท์มาให้ที่คอนโซลหน้าและแผงประตู

อีกจุดที่ปลี่ยนคือคอนโซลเกียร์เพราะ e:N1 ไม่มีคันเกียร์เหมือน HR-V แต่เป็นเกียร์แบบปุ่ม และที่ดีคือเกียร์ R ที่ออกแบบรูปทรง การควบคุมที่ต่างออกไปจาก D N หรือ P น่าจะช่วยป้องกันการเข้าเกียร์ผิดได้

ส่วนจอสดงข้อมูลขับขี่ เป็นแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงข้อมูลชัดเจน

ส่วนออปชั่นหลักๆ ที่ให้มาก็ไม่น้อยครับ แน่นอนรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ คือ

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่

นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information - BSI) ครั้งนี้ฮอนด้าใส่มาให้นะครับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลายคนเรียกร้องอยากได้ แต่ฮอนด้าไม่ได้ใส่มากับรถหลายรุ่น แต่มี lane watch มาให้แทน

รวมถึง ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด

ช่องเชื่อมต่อยูเอสบีด้านหน้า 2 ช่อง เป็นไทป์เอ 1 ช่อง ไทป์ ซี 1 ช่อง ส่วนด้านหลังเ)็น ไทป์ ซี 2 ช่อง ที่ชาร์จไฟแบบไร้สาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา เป็นต้น

โดยรวมถือเป็น อีวี ที่น่าสนใจ เป็นอีวี ที่ขับดีที่สุดในตลาดเดียวกันตอนนี้แล้วหละครับ ถ้าไม่เชื่อก็ลองซื้อ อ้อ ไม่ได้สิ ต้องลองเช่ามาขับ เพราะฮอนด้าไม่ขาย แต่เปิดให้เช่าระยะยาวเท่านั้น เริ่มต้นเดือนละ 29,900 บาท โดยไม่ค่าใช้จ่ายด้านการดูแล รวมถึงการเปลี่ยนยางทุก 50,000 กม. หรือแบตเตอรี 12 โวลต์ ที่เปลี่ยนทุกปี

ที่มา : Cr : สินธุ์ชัย ภมรพล / กรุงเทพธุรกิจ 9/04/2024 [359 Views]






รถไฮบริด รถอีวี HEV-PHEV-BEV
รถไฮบริด-ปลั๊กอินไฮบริด-รถอีวี
รถอีวี100%(BEV)
ราคารถไฮบริด-ปลั๊กอินไฮบริด-รถอีวี
ราคารถอีวี100%(BEV)
ประเภทรถอีวี-รถไฟฟ้า
TOYOTA Corolla Cross HEV 2024
TOYOTA Yaris Cross 2024
BYD Dolphin (2023)
MG4 Electric 2023
รถอีโคคาร์ ECO CAR
รถอีโคคาร์
ราคารถอีโคคาร์
TOYOTA Yaris 2023
รถอเนกประสงค์ PPV CAR
รถอเนกประสงค์ พีพีวี
ราคารถอเนกประสงค์ พีพีวี
รถกระบะ PICK-UP CAR
รถกระบะ รุ่นมาตรฐาน
รถกระบะ 2ประตู แค็บ 2WD
รถกระบะ 2ประตู แค็บ 4WD
รถกระบะ 4ประตู ดับเบิ้ลแค็บ 2WD
รถกระบะ 4ประตู ดับเบิ้ลแค็บ 4WD
จักรยานยนต์ไฟฟ้า MOTO EV
จักรยานยนต์ไฟฟ้า
ราคาจักรยานยนต์ไฟฟ้า
จักรยานยนต์ MOTO
จักรยานยนต์ ออโตเมติก(เอที) AT
จักรยานยนต์ ครอบครัว Family
จักรยานยนต์ สปอร์ต Sport
จักรยานยนต์ ออฟโรด Off Road

รีวิวรถยนต์ - รถอีวี
BYD Sealion 7 (2024-2025)
KIA EV5 (2024)
TOYOTA Corolla Cross GR Sport 2024
HONDA City Hatchback e:HEV (2024)
HONDA e:N1 (2024)
รีวิวรถกระบะ - รถพีพีวี
ISUZU Dmax2.2 Ddi MAXFORCE 2025
ISUZU MU-X 2024-2025
TOYOTA Hilux Revo GR Sport 2024
MITSUBISHI PAJERO SPORT 2024
FORD RANGER V6 3.0 Turbo
MITSUBISHI TRITON ATHLETE







หมวดยานยนต์-แทรกเตอร์ โปรโมชั่น-ข่าวเด่น-รีวิว 108เอ็นจินดอทคอม
รถอีวี / รถโมโต อีวี โปรโมชั่นรถยนต์ /รถแทรกเตอร์ /จักรยานยนต์ หน้าแรก108engine.com
รถอีโคคาร์ ข่าวรถยนต์-รถอีวี ข้อตกลงการใช้งาน
รถกระบะ-รถอเนกประสงค์(พีพีวี) ข่าวรถแทรกเตอร์-สมาร์ทฟาร์ม นโยบายความเป็นส่วนตัว
รถแทรกเตอร์ ข่าวรถจักรยานยนต์-โมโต อีวี ติดต่อโฆษณา Advertise With Us
รถเกี่ยวนวดข้าว MOTOR SHOW / TRACTOR SHOW ติดต่อเรา Contact Us
รถจักรยานยนต์ ทัวร์ร้านค้ายานยนต์ทั่วไทย  
รถบิ๊กไบค์ รีวิว รถยนต์-รถอีวี /รีวิว รถกระบะ-รถพีพีวี  
เครื่องยนต์อเนกประสงค์ รีวิว รถจักรยานยนต์-โมโต อีวี  
Follow us
   
Copyright © 2000 - 2025  108Engine Dot Com All Rights Reserved
 
cheap air max|cheap air jordans|pompy wtryskowe|cheap huarache shoes| bombas inyeccion|cheap jordans|cheap sneakers|wholesale jordans|cheap china jordans|cheap wholesale jordans|cheap jordans|wholesale jewelry china