กลับมาลุยสังเวียนตลาดสกู๊ตเตอร์สปอร์ตคลาสสิกอีกครั้ง สำหรับโมเดลยอดนิยมในยุคปี 60 ภายใต้ชื่อรุ่นที่คุ้นเคยกันดีอย่าง เวสป้า สปริ้นท์ กับการฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยรูปโฉม และสมรรถนะใหม่ล่าสุดรอบคัน มาพร้อมสองทางเลือกขนาดเครื่องยนต์พิกัด 125 และ 150 ซีซี. เปิดราคาอยูที่ 98,400 บาท และ 119,900 บาท ตามลำดับ
ขณะเดียวกันรถทดสอบที่เรานำมาลองขี่คันนี้เป็นรุ่นพิกัด 150 ซีซี. สีพิเศษเทาด้าน ราคาจะดีดเด้งมากกว่าสีปกติอีกหน่อยอยู่ที่ 121,900 บาท
สำหรับเวอร์ชันปี 2014 ได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน ภายนอกเน้นอารมณ์ความสปอร์ต มีความปราดเปรียวด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด ผสานเส้นสายที่โค้งมน คงเอกลักษณ์ความคลาสสิกของโครงสร้างตัวถังเหล็ก ตามด้วยโคมไฟหน้าทรงเหลี่ยม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมของสายรหัสโมเดลนี้ ส่วนไฟเลี้ยวสองฝั่งฝังอยู่บนบังลมด้านหน้า เหมือนกับไฟเลี้ยวด้านหลังและไฟท้าย โดยฝังรวมอยู่ในบอดี้ตัวรถด้วยเช่นกัน
ในส่วนของออฟชันเรือนวัดความเร็วทรงเน็กไท ใช้แบบอนาล็อกผสมดิจิตอล แสดงข้อมูลความเร็ว เวลา ทริประยะทาง และระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สวิตซ์แฮนด์บังคับฝั่งขวาควบคุมการเปิดและปิดไฟหน้า พร้อมปุ่มใช้เลือกโหมดแสดงสถานะบนหน้าจอ และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่วนฝั่งซ้ายใช้ดูแลไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว และแตร
ขณะที่เบาะนั่งขนาดใหญ่ตอนเดียวสีดำตัดขลิบขาวพร้อมส่วนเว้าแบ่งระดับคนซ้อน โดยด้านใต้สามารถ ใช้เป็นที่เก็บสัมภาระ แม้ว่าจะไม่กว้างขวางมากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะใส่หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้
นอกจากนี้บริเวณคอนโซลหน้ายังมีเก๊ะเป็นพื้นที่ช่องเก็บของเพิ่มอีกด้วย แต่ไม่แนะนำให้ใส่ของมีค่า เพราะระบบการเปิดปิดไม่สามารถล็อกได้ เพียงใช้นิ้วกดช่องเสียบกุญแจฝาก็จะเปิดออกโดยอัติโนมัติ
หากมองภาพรวมของดีไซน์ภายนอกนับว่าใกล้เคียงกับรุ่นพรีมาเวรา(Primavera) แต่มีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อยที่โคมไฟหน้า สปอยเลอร์หรือมือจับหลัง ระบบช่วงล่าง เบรก และขนาดวงล้อ
ส่วนภายในใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ขุมพลังเครื่องยนต์สูบเดียว 4 จังหวะ 3 วาล์ว ขนาดสุทธิ 154.8 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลังสูงสุด 8.7 กิโลวัตต์ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12 นิวตัน-เมตรที่ 5,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยสายพาน CVT
ด้านการควบคุมทำได้คล่องตัว ตำแหน่งแฮนด์บังคับวางกลางลำตัวผู้ขี่ องศาท่านั่งหลังตรง พื้นที่วางขาขนาดพอเหมาะ แม้ว่าความสูงของเบาะ 790 มม. อาจจะไม่คุ้นเคยสำหรับนักบิดชาวไทย ที่มีความสูงต่ำกว่า 170 ซม. ซึ่งจะทำให้การยืดขายันพื้นทำได้เพียงปลายเท้าข้างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อล้อหมุนแล้วอุปสรรค ข้อนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวล
สำหรับการใช้งานจริงบท้องถนนช่วงต้นการออกตัวเซตอัตราตอบสนองได้ค่อนข้างดี จังหวะเร่งแซงทำได้ไม่ต้องลุ้น เมื่อเทียบกับสกู๊ตเตอร์ค่ายญี่ปุ่นในพิกัดเดียวกันถือว่าสู้ได้สบาย ส่วนความเร็วช่วงปลายก็ไม่ขี้เหร่ ไหลยาวเห็นตัวเลขได้เกือบ 120 กม./ชม.
ขณะที่ระบบช่วงล่างแน่นหนึบ ยึดเกาะถนนได้ดีสมกับรูปลักษณ์ความสปอร์ต ส่วนการห้ามล้อ หน้าดิสก์เดี่ยว 2 ลูกสูบ หลังดรัมเบรก หากใช้งานประสานกันลงตัว ด้านการทำหน้าที่ก็ดูจะไร้ข้อบกพร่อง
ท้ายที่สุดเมื่อเทียบความคุ้มค่ากับราคาของ เวสป้า สปริ้นท์ 150 ในกลุ่มสกู๊ตเตอร์ขนาดเครื่องยนต์ พิกัดเดียวกัน ด้านสมรรถนะการขี่แทบไม่มีอะไรแตกต่าง แต่หากวัดกันที่ความคลาสสิกซึ่งเป็นจุดเด่น ของแบรนด์ดังอมตะจากแดนมักกะโรนี และเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมการยอมรับกันในระดับโลก
จ่ายแพงกว่า แต่ขี่ใช้งานจริงและเก็บสะสมได้ด้วย...คุ้มหรือไม่ แล้วแต่จะคิด!
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์[11201 Views]
|