หลังการเปิดตัวเพียงไม่ถึงสัปดาห์ของ ซูซูกิ เซียส ใหม่ อีโคคาร์ 4 ประตู คันแรกของ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้มีการจัดให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะอย่างรวดเร็วบนเส้นทาง กรุงเทพฯ-ตราด ระยะทางรวมกว่า 300 กม.
รถอีโคคาร์รุ่นดังกล่าวถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ของซูซูกิ ที่ตั้งเป้ายอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,500 คัน/เดือน ซึ่งหลังการเปิดตัวในวันที่ 8 ก.ค. จนถึงปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ามาทดลองขับในโชว์รูมต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 1 หมื่นราย
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของ ซูซูกิ เซียส ใหม่ คันนี้วางไว้ในตำแหน่งความหรูหรา และความกว้างขวาง เพื่อตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มครอบครัว ซึ่งในการลองขับครั้งนี้ โพสต์ทูเดย์ ได้ขับ ซูซูกิ เซียส ใหม่ รุ่นจีแอล ซีวีที ซึ่งเป็นรุ่นกลางที่น่าจะเป็นตัวทำยอดได้ดี เพราะด้วยความคุ้มค่าของราคาที่อยู่ที่ 5.59 แสนบาท ขณะที่ตัวท็อปสุดของรุ่นอยู่ที่ 6.25 แสนบาท
ความแตกต่างระหว่างรุ่นดังกล่าวนี้กับรุ่นท็อปอยู่ที่ ไม่มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และการตกแต่งภายใน รวมถึงชุดแต่งภายนอกเล็กๆ น้อยๆ บางจุด
การออกแบบภายนอกจะว่าไปก็ดูหรูหราใช่ย่อยด้วยเส้นสายรายละเอียดโดยรวม อีกทั้งรายละเอียดในจุดต่างๆ เป็นต้นด้วย กระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ ล้อกระทะพร้อมฝาครอบ ขนาด 15 นิ้ว ดูไปดูมาก็ไม่น้อยหน้ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก (บี-เซ็กเมนต์) เลยทีเดียว
ส่วนภายในห้องโดยสาร ต้องบอกเลยว่าเกินความคาดหมายเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน ด้วยขนาดความ กว้างขวางใหญ่แบบแท้จริง โดยเฉพาะเบาะที่นั่งด้านหลังที่สามารถเอกเขนกสัมผัสความสบายได้อย่างเต็มที่ มีพื้นที่ส่วนศีรษะ พื้นที่ส่วนขา แบบเหลือเฟือ ในการนี้ต้องบอกเลยว่ามีผู้ร่วมเดินทางร่วมไปใน รถคันเดียวกัน แบบเต็มทุกที่นั่ง (4 คน) ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเดินทางเลยแม้แต่น้อย
แต่จุดสังเกตอยู่ที่วัสดุที่เลือกมาทำเบาะที่นั่งอาจให้ความรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก เพราะนั่งนานๆ แล้วรู้สึกไม่สบายตัวเท่าไร แต่ที่ชอบคือ ช่องเก็บของอเนกประสงค์ต่างๆ ในตัวรถมีเพียบ รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ที่มีความสามารถ ในการบรรทุกได้ดี
ขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีมาให้ในรุ่นนี้ก็มีพอประมาณ แต่ยังแตกต่างจากรุ่นท็อปอยู่บ้าง ซึ่งอาจต้องตัดสินใจ ว่าจะเลือกยอมที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อแลกกับสิ่งที่ได้มากขึ้นในรุ่นท็อป อย่างเช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิทัล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปุ่มกดสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start) กุญแจอัจฉริยะ และระบบเครื่องเสียงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ เป็นต้น ซึ่งก็ต้องเลือกตามความต้องการใช้งาน
มาถึงขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.25 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบ/นาที รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด แก๊สโซฮอล์ อี20 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับ ซูซูกิ สวิฟท์ แต่ได้รับการปรับจูนระบบเกียร์อัตโนมัติซีวีทีใหม่
อารมณ์ความรู้สึกการขับขี่ให้ความรู้สึกแตกต่างอยู่บ้าง แม้จะเป็นเครื่องยนต์เดียวกันกับซูซูกิสวิฟท์ แต่ก็พอได้เนื่องด้วย เทคโนโลยีการพัฒนาโครงสร้างตัวถัง (TECT) ใช้เหล็กกล้าที่มีน้ำหนักเบา ทำให้แม้ว่าตัวถังจะใหญ่ขึ้น แต่น้ำหนักก็ไม่ได้มากขึ้นตาม
ความสนุกสนานในการขับขี่มีพอประมาณแต่ไม่ได้เน้นมากนัก ส่วนใหญ่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ความไหล ลื่นต่อเนื่องในการขับขี่แบบเรื่อยๆ สไตล์ครอบครัวมากกว่า ในช่วงความเร็วต้นอาจมีบางจังหวะที่รับรู้ได้ถึงความตื้อเล็กน้อย แต่พอเมื่อความเร็วอยู่ในระดับกลาง-สูงแล้ว ก็มาตามรอบตามแรงได้พอประมาณ ถึงแม้จะไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดมาไวก็ตามที
แต่จากการที่ได้ลองขับระยะทางไกลกว่า 300 กม. อย่างที่เรียนให้ทราบข้างต้น พร้อมบรรทุกน้ำหนักผู้โดยสาร และน้ำหนักสัมภาระเต็มพิกัด ก็สามารถมั่นใจไปถึงจุดหมายได้อย่างฉลุย แต่มีนิดเดียวที่น้ำหนักพวงมาลัยดูเบามือไปหน่อย แต่ด้วยความตั้งใจในการออกแบบให้สะดวกสบายในการขับขี่ก็พอจะเข้าใจได้
ช่วงล่างการขับขี่ถือว่าทำได้ดีระดับที่น่าพอใจ มีบ้างในย่านความเร็วสูงที่จับอาการได้อยู่เพียงเล็กน้อยให้ได้เห็นบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหาสำคัญเพราะยังให้ความมั่นใจโดยรวในการเกาะถนนและประสิทธิภาพการทรงตัวที่ดีได้ ส่วนระบบความปลอดภัยมีมาให้ได้อุ่นใจ เช่น ถุงลมนิรภัย SRS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
สรุปสุดท้าย ความกว้างขวางถือเป็นจุดเด่นและสมรรถนะโดยรวม ที่อาจพูดได้ว่าเหนือกว่าคู่แข่งระดับ เดียวกันในตลาดเวลานี้ พร้อมด้วยราคาค่าตัวที่เหมาะสมรับได้ทำให้เวลานี้ ซูซูกิ เซียส ใหม่ เป็นที่น่าสนใจสำหรับใคร ที่กำลังมองหาความคุ้มค่าในการเริ่มต้นสำหรับรถยนต์ของครอบครัวขนาดพอเหมาะสักคันก็ว่าได้
ข้อมูลสเปครถยนต์ : Suzuki Ciaz ที่มา : โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ [14740 Views]
|