ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงเหลือใจของตลาดรถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) เห็นได้จากการเปิดตัว ใหม่หลายรุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน พร้อมทั้งการช่วงชิงจังหวะเวลาไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว หรือแม้กระทั่งการจัด ให้สื่อได้ลองสัมผัสสมรรถนะก็เช่นกัน
ในครั้งนี้ โพสต์ทูเดย์ ได้ทดสอบ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ที่ชิงตัดหน้าเจ้าอื่นจัดให้ลองสัมผัส สมรรถนะภายหลังการเปิดตัวเพียง 2 สัปดาห์ พร้อมกันนั้นก็ได้การันตีความร้อนแรงของรถยนต์รุ่นดังกล่าว ด้วยยอดจองนับตั้งแต่วันเปิดตัวในวันที่ 1 ส.ค. 2558 จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ราว 3,500-3,600 คัน ทั่วประเทศ
หากจะเรียกว่าเป็นสื่อมวลชนกลุ่มแรกในโลกที่ได้สัมผัสรถยนต์คันดังกล่าวคงจะไม่เกินไป เพราะการเปิดตัวของรถยนต์รุ่นนี้ ได้ใช้ประเทศไทยเป็นที่เปิดตัวครั้งแรกในโลก โดยกิจกรรมการสัมผัสสมรรถนะจัดขึ้นที่สนามทดสอบรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และถือได้ว่าเป็นรุ่นแรกที่ได้ใช้สนามแห่งนี้เช่นกัน
แต่การลองขับในครั้งนี้เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แบบหอมปากหอมคอเท่านั้น เสมือนการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ (คิวซี) ของรถที่ผลิตออกมาจากโรงงานแล้วตัดล็อตมาให้สื่อมวลชน ได้สัมผัสก่อนการเริ่มต้นส่งมอบให้กับลูกค้า ได้จริงในช่วงเดือน ต.ค. 2558
รูปแบบการลองขับครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นโดยแบ่งเป็นสถานีต่างๆ 3 สถานี ตามการจัดหมวดหมู่ ได้แก่ สถานีให้ข้อมูลด้าน ความปลอดภัย สถานีให้ข้อมูลด้านความสะดวกสบาย และสถานีให้ข้อมูลด้านสมรรถนะ พร้อมทั้งการลองขับและการแสดง ให้เห็น ถึงระบบการใช้งานอีกด้วย
เริ่มต้นที่รูปลักษณ์การออกแบบภายนอกที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าไปทุกกระเบียดนิ้ว โดยได้รับการออกแบบในสไตล์ ไดนามิก ชิลด์ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ พร้อมไฟหน้า-ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ รวมถึงเส้นสายรายละเอียดไหลลื่นดุดันลงตัว
เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสาร ที่ล้ำยิ่งขึ้นด้วยโทนสีดำตัดกับสีเงิน อีกทั้งการออกแบบคอนโซลแบบ ทีเชป-ไฮ คอนโซล (T-Shape High Console) เพิ่มความหรูหราและยกให้คอนโซลกลางสูงขึ้น พร้อมเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยการ จัดวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในตำแหน่งที่เหมาะสมใช้งานง่าย
ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกเพิ่มขึ้นมา อาทิ ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า (ครั้งแรกที่ติดตั้งในรถยนต์มิตซูบิชิ), ปุ่มปรับเลือกระบบ ขับเคลื่อนต่างๆ แค่เพียงหมุน, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน ปรับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง รวมถึงมาตรวัดแสดงผลข้อมูลที่ดูเข้าใจง่าย ขณะที่ตำแหน่งที่นั่งและอารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมเยอะ ด้วยการออกแบบเบาะที่นั่งใหม่ให้ทัศนวิสัย กว้างขึ้นและรองรับสรีระยิ่งขึ้น
ขณะที่ไฮไลต์เด็ดของ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ตามที่บริษัทได้เคลมไว้ด้วยความภาคภูมิใจ คือ การติดตั้งระบบเตือน การชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ที่ทำงานด้วยการใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากคันหน้าเมื่อมีความเสี่ยง ที่จะชนท้ายคันหน้าจะมีเสียงเตือนและเบรกให้อัตโนมัติ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องมีความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตราโซนิค ตรวจจับวัตถุด้านหน้าหรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่ตำแหน่งเกียร์อยู่ที่ D หรือ R หากมีการเหยียบคันเร่ง อย่างรุนแรงและรวดเร็วระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ 5 วินาที เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดจากการชน
จากการลองทั้งสองระบบ ถือว่าเป็นระบบเสริมความปลอดภัยที่ดี ช่วยบรรเทาความเสียหายโดยความไม่ตั้งใจ ในขณะที่จอดหรือในความเร็วต่ำ หากแต่ต้องมีเงื่อนไขที่ระบบจะทำงานต่อเมื่อล้อตรงเท่านั้น ซึ่งอาจจะกำหนดไม่ได้ว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุนั้นล้อตรงหรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีระบบกล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ พร้อมแสดงภาพมุมสูงผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วภายในรถ อีกทั้งระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา โดยระบบจะส่งสัญญาณ ไฟเตือน บนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตาที่ไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง
สำหรับเครื่องยนต์มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ ไมเวค คลีนดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร พร้อมการฉีดน้ำมันด้วยอัตราส่วนกำลังอัด 15:5:1 ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VG Turbo) และวาล์วไอดีแบบแปรผัน ที่ทำงานสอดคล้อง กับความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำพร้อมการเผาไหม้ที่ดี โดยประหยัดน้ำมันขึ้น 17% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมการปล่อยค่ามลพิษที่ต่ำกว่า 200 กรัม/กม. ตรงตามเกณฑ์โครงสร้าง ภาษีรถยนต์ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2559
พร้อมทั้งการทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด พร้อมโหมดสปอร์ต และปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ซึ่งมาพร้อมด้วยระบบ G-Sensor ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน รวมถึงระบบช่วย ควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก (Idle Neutral Control) ช่วยลดภาระการทำงาน ของเครื่องยนต์และการสูญเสียเชื้อเพลิงในขณะที่รถหยุดนิ่งเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D
นอกจากนี้ รุ่นที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังมาพร้อมด้วยความละเอียดแยกย่อยตามต้องการทั้ง 2H, 4H, 4HLc, 4LLc ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าเปลี่ยนง่ายนิดเดียวแค่หมุน พร้อมโหมดขับเคลื่อบแบบออฟโรดที่มีให้เลือกในสภาพเส้นทางต่างๆ ลงลึกในรายละเอียดเข้าไปอีก
อารมณ์การขับขี่ที่ได้ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ก็ตาม แต่สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลในการขับขี่และการตอบสนอง ที่ต่อเนื่องของเครื่องยนต์และเกียร์ที่ทำงานสัมพันธ์กันได้ดี แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของระบบ ซึ่งเส้นทางใน สนามทดสอบ ได้มีการจำลองให้ในหลายลักษณะ ซึ่งเป็นลักษณะสภาพเส้นทางถนนของประเทศไทยแท้ๆ
สรุปความรวมแล้วนั้น ถึงแม้ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ จะมีเครื่องยนต์ดีเซลที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ ในระดับเดียวกัน แต่แรงม้ากลับสูงกว่า รวมถึงเกียร์ 8 สปีด ที่ช่วยประหยัดและลดข้อจำกัดของรอบเครื่องยนต์ดีเซล ที่ลากรอบสูงแล้วมีอาการตื้อ อีกทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ที่ถูกใส่เข้ามากับราคาเริ่มต้นที่ 1.138-1.450 ล้านบาท ซึ่งได้เครื่องยนต์เดียวกัน เกียร์เดียวกันเป็นพื้นฐาน แต่แตกต่างกันที่ออปชั่นต่างๆ ถือได้ว่าเป็นคันที่น่าสนใจ อย่างโดดเด่นขึ้นมาเลยทีเดียวในเซ็กเมนต์นี้ ครั้งนี้อาจได้ลองขับแบบสั้นๆ พอให้ได้รับรู้ข้อมูลตัวรถ ซึ่งในโอกาสหน้าจะได้มีการนำเสนอการลองขับแบบในชีวิตประจำวันแบบเต็มๆ มานำเสนอต่อไป
ข้อมูลสเปครถยนต์ : Mitsubishi PajeroSport GT Mitsubishi PajeroSport GT-Premium 4WD
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ [14650 Views]
|