แม้ว่าสภาพตลาดรถยนต์ในบ้านเราโดยรวมจะดูซบเซาและซึมลึก จนหลายค่ายออกมาประเมินตัว เลขยอดขายปีนี้ว่าหากทำได้ 8 แสนคันก็ต้องถือว่าเก่งมากแล้ว แต่ในความซบเซา ก็ยังมีความคึกคักให้เห็น ประปราย โดยเฉพาะตลาด "พีพีวี" รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุกซึ่งมีพื้นฐานมาจากปิกอัพ ซึ่งกระหน่ำเปิดตัวพร้อม ๆ กันของ 3 ยักษ์ใหญ่ เริ่มจากโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และฟอร์ด เอเวอเรสต์
ต้องบอกว่าทั้ง 3 ตัว วิศวกรแต่ละค่ายคัดสรรกันมาเป็นอย่างดี ทั้งรูปร่างหน้าตา หน่วยก้าน รวมถึงสมรรถนะ ชนิดที่ว่า "รักใครชอบคันไหนเลือกตามใจชอบ"
สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่หลายคนรอคอย มาพร้อมกับการอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เรียกว่า ก้าวข้ามเกินกว่าความเป็นรถพีพีวีไปแล้ว โดยสามารถเทียบชั้นรถเอสยูวีได้แบบสบาย ๆ "ประชาชาติธุรกิจ" ไม่พลาดที่ร่วมทดสอบเพื่อสัมผัสความเหนือชั้นที่ฟอร์ดจับมาใส่ให้กับรถคันนี้
ทีมงานฟอร์ดเลือกใช้เส้นทางทดสอบกันในเส้นทางเหนือสุดแดนสยาม จ.เชียงราย ด้วยรูปแบบการทดสอบ แบ่งออกเป็น 2 สถานีใหญ่ ๆ คือ ออนโรดและออฟโรด รุ่นที่เราได้ทดสอบ ทีมงานจัดรุ่นท็อปไว้ให้สัมผัส ด้วยพื้นฐานของเอเวอเรสต์ ใหม่ ที่ถูกพัฒนามาจาก "สมาร์ทปิกอัพ" พันธุ์แกร่ง หน้าตาดีอย่างฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ต่างได้รับการกล่าวขานว่าเป็นรถที่ ดูดีที่สุดในตอนนี้ (ตรงนี้เป็นเรื่องของความชอบและพึงพอใจ ของแต่ละบุคคล)
การออกแบบภายนอกมีครบทั้งความดุดัน ความเรียบหรู พร้อมลุยไปในทุกเส้นทาง ทั้งการขับขี่ในเมือง หรือบางจังหวะที่ต้องการออกไปลุย
กระจังหน้าสี่เหลี่ยมคางหมู อันเป็นเอกลักษณ์ สอดรับกับชุดโคมไฟหน้า เพิ่มชุดไฟส่องสว่างในตอนกลางวัน แบบแอลอีดี เสริมความเท่ด้วยบันไดข้างและแร็กหลังคาที่ด้านท้าย โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ตัวอักษร "Everest" เป็นแผงโครเมียม พาดผ่านที่ฝากระโปรงท้ายเลื้อยไประหว่างชุดไฟท้าย
เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสาร เน้นโทนสีครีม ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงความหรูหรา ความสบาย และอบอุ่นด้วย หลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆถูกออกแบบและจัดวางให้ผู้ขับ และผู้โดยสารสามารถใช้งานได้โดยเฉพาะในส่วนของเบาะที่นั่งแถว 3 ฟอร์ด ตั้งใจออกแบบ และเพิ่มความ สะดวกในการใช้งาน โดยนำระบบพับเก็บเบาะที่นั่งแบบไฟฟ้ามาใส่ไว้ในแถว 3 เพียงแค่กดปุ่มสั่งการเบา ๆ เบาะในแถว 3 พร้อมพับขึ้น เพื่อรองรับการใช้งาน และพับลงราบเรียบเป็นพื้นเดียวกัน ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระ เพิ่มขึ้น และสะดวกสบายในการใช้งาน ส่วนการพับเบาะแถวที่นั่งแถว 2 ก็สามารถทำให้เป็นพื้นผิวเดียวกัน ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนฝาปิดประตูหลังเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
คอนโซลหน้าโดดเด่นด้วยตัวอักษร Everest ที่ฝาปิดช่องเก็บของด้านหน้าคู่คนขับ พร้อมด้วยหน้าจอแบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 2 เชื่อมต่อโทรศัพท์และฟังเพลง
เมื่อได้เวลามานั่งด้านหลังพวงมาลัยปรับตำแหน่งที่นั่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ให้เหมาะสมแล้ว ไปสัมผัสกับเจ้าเอเวอเรสต์คันนี้บนทางออนโรด กับเส้นทางที่ลัดเลาะถนนเส้นรอง ผ่านหมู่บ้านที่คดโค้ง ขนาบข้างไปด้วยทุ่งนา
พวงมาลัยและช่วงล่างของรถคันนี้ มาพร้อมกับการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ทำให้ตัวรถสามารถเกาะถนน ในการขับขี่ โดยเฉพาะในจังหวะเข้าโค้งหรือแซง, ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ผสานกับการทำงาน ของพวงมาลัยพาวเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ทำให้การสั่งการและควบคุมรถคันนี้ไม่ต้อง ออกแรงและง่ายนิดเดียว
ขุมกำลังของเครื่องยนต์ดูราทอล์ค 3.2 ลิตร 5 สูบ วีจี เทอร์โบ ให้กำลัง 200 แรงม้าที่ 3,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ในจังหวะออกตัว แน่นอนว่า จากน้ำหนักตัวที่ต้อง แบกรับไว้ ทำให้อืดอาดเล็กน้อย แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นเหมือนกับม้าทั้ง 200 ตัว ถูกปลุกให้ตื่น พละกำลังของเอเวอเรสต์มาแบบเหลือเฟือ
จังหวะกระชากคันเร่งเรียกความเร็วเพื่อเร่งแซง ก็สามารถทำได้อย่างคล่องตัว ไม่มีอาการสะดุด กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
นอกจากนี้ฟอร์ดยังได้นำระบบช่วยจอดอัจฉริยะ มาใส่ให้รถคันนี้ เพียงแค่กดปุ่ม ระบบจะทำงานให้ทันทีรวมทั้ง ระบบตรวจจับรถในจุดบอด เมื่อมาถึงรูปแบบการขับขี่แบบออฟโรด ซึ่งทีมงานเลือกใช้เส้นทางแบบใช้งานจริง ในธรรมชาติ เอเวอเรสต์คันนี้ก็สามารถผ่านอุปสรรคความสมบุกสมบันออกมาได้ เพียงแค่หมุนปุ่มเลือกรูปแบบ การขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตามสภาพเส้นทาง ทั้งทะเลทราย, หิมะ, ทางลาดชัน รถคันนี้สามารถลุยผ่าน ไปได้แบบสบาย ๆ
ส่วนความนุ่มนวลตลอดเส้นทางออนโรดและออฟโรด ภายในห้องโดยสารทั้ง 7 ที่นั่ง ฟอร์ดสามารถซับแรง กระแทก และมีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ส่วนความปลอดภัย ก็จัดเต็มกับถุงลมนิรภัย มากถึง 7 จุด
มาถึงตรงนี้ เพียงแค่นั่งสำรวจตรวจตราออปชั่นและสิ่งที่ฟอร์ด เอเวเรสต์คันนี้มีมาให้กับลูกค้าชาวไทยนั้น เรียกว่า ล้นเหลือ และใครที่กำลังมองหารถสไตล์เอสยูวีสุดหรูไว้ใช้งานแล้วละก็ ลองแวะเข้าไปสัมผัสประสบ การณ์จากเอเวอเรสต์คันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ สนนราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 1.269-1.599 ล้านบาท
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ [12598 Views]
| 
