ภายหลังการเปิดตัวพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรถกระบะที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร ใน อีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่ ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาแล้วนั้น
ล่าสุดในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ยังคงเดินหน้าสร้าง ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการรถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) ในรุ่น อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่สุดในตลาดเลยก็ว่าได้
โพสต์ทูเดย์ ได้มีโอกาสลองสัมผัส อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทางรวมกว่า 350 กม. ซึ่งเรียกได้ว่าตลอดเส้นทาง ได้เปิดให้รถพีพีวีคันนี้แสดงศักยภาพให้เห็นพอสมควรเลยทีเดียว
เริ่มต้นที่การออกแบบภายนอกดูดีมีระดับสะท้อนความหรูหราสง่างามและภูมิฐาน แต่แฝงไว้ซึ่งความสปอร์ต และความเป็นเอกลักษณ์ ของอีซูซุไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบ 3 ไดเมนชั่น เฉียบคม พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (ซูเปอร์เดย์ไลต์) สไตล์ยุโรป ไล่เรียงไปถึงไฟท้ายดีไซน์เฉพาะเพิ่มมิตbชัดเจน รวมถึงมีแร็กหลังคา ดีไซน์รับกับตัวรถ ล้ออัลลอยด์ ลายใหม่ พร้อมสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม อาทิ กล่องเก็บของ ขาตั้งจักรยาน เป็นต้น
สำหรับภายในห้องโดยสารสไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีเข้มดูดุดันดี พร้อมวัสดุไฮกลอสแบล็กตัดกับสีเงินเมทัลลิก ดีขรึมแต่สปอร์ต ซึ่งการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ เข้าใจง่าย ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากจบในตัวที่คอลโซลหน้า ซึ่งที่มีมาให้ก็ถือได้ว่าครบครัน อาทิ ระบบกุญแจควบคุมการเปิด-ปิดประตูด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปุ่มสตาร์ท เครื่องยนต์อัจริยะ พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น ที่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ครูซคอนโทรล)
ไม่เท่านั้น กระจกมองหลังยังแฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีที่แสดงภาพขณะถอยหลัง ง่ายต่อการมองเห็นพร้อม ระบบบันทึกวิดีโอขณะขับขี่ (บิวต์อิน เซฟตี้ คาเมร่า) รวมถึงมาตรวัดเรือนไมล์แบบ 3 มิติ สวยงามขึ้นเยอะ
ที่น่าจะเป็นทีเด็ดอยู่ที่เบาะที่นั่งและที่พักแขนหุ้มหนังชนิดพิเศษ ซึ่งได้มีการเสริมความหนาเพื่อให้รองรับ ทุกอิริยาบถตลอดการเดินทาง ที่นุ่มสบายพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนแถวที่นั่งเบาะที่ 2 เป็นเบาะแบบปรับพับจังหวะเดียว ง่ายต่อการปรับเปลี่ยน ไม่ว่าจะบรรทุกผู้โดยสารหรือสัมภาระ
อีกทั้งระบบความบันเทิงรูปแบบใหม่ของอีซูซุ ภายใต้ชื่อ อีซูซุ คอนเนกเวิลด์ ที่มาพร้อมหน้าพอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และจอภาพบนเพดานแบบบิวต์อินขนาด 10.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทุกรูปแบบ พร้อมระบบเสียง เซอร์ราวด์ ซิสเต็ม ลำโพง 8 ตัว คมชัดทุกมิติ และระบบปรับความเย็นอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์ ในทุกแถวที่นั่งทั้ง 3 ตอนพร้อมสวิตช์แยกควบคุมแรงลมอิสระ
ความรู้สึกเมื่อนั่งในรถพีพีวีคันนี้ให้ทัศนวิสัยดีรอบคัน และความนุ่มสบายของเบาะที่ถูกเสริมขึ้นมา ทำให้อยากจะเอกเขนก นอนบนรถเสียนี่กระไร และที่ชอบอีกจุดหนึ่งคือช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ 220 โวลต์ และจุดเชื่อมต่อ USB ที่เตรียมพร้อม รองรับสำหรับชีวิตยุคปัจจุบันที่ ขาดปลั๊กไม่ได้ อุ่นใจไม่ว่าจะทำงาน บนรถขณะเดินทางหรือแม้กระทั่งเชื่อมต่อกับ โลกโซเชียลโดยไม่ต้องกลัว แบตเตอรี่ของอุปกรณ์หมดแต่อย่างใด
แต่มีข้อสังเกตบางประการสำหรับเบาะที่นั่งแถวที่ 2 หากเป็นผู้ที่มีความสูงพอสมควรหรือขายาวเป็นพิเศษ อาจจะต้องนั่งในลักษณะชันเข่าขึ้นสูงไปสักเล็กน้อย เนื่องจากเบาะที่นั่งมีความสูงจากพื้นของตัวรถไม่มาก แต่ถ้าหากเป็นพนักพิงที่สามารถปรับเอนได้เยอะก็อาจจะพอมาชดเชยกันได้อยู่บ้าง
มาถึงในส่วนของขุมพลังใต้ฝากระโปรงของรถพีพีวีคันนี้กันบ้าง สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลัง สูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ตรงนี้เอง กับคำถามของหลายคนที่กำลังสนใจในรุ่นดังกล่าว แต่ยังพะวงเรื่องน้ำหนัก ของตัวรถกับขนาด ของเครื่องยนต์สอดคล้องกันหรือไม่
คำตอบ คือ อยู่ในระดับที่พอรับได้ถ้าหากใช้ความเข้าใจกับขนาดของเครื่องยนต์แบบนี้ในรถคันนี้แล้ว ที่ความเร็วช่วงออกตัว ที่อาจไม่ปรู๊ดปร๊าดถึงใจเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดอื่นๆ หากแต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ของบรรทัด คือ ต้องใช้ความเข้าใจ เมื่อความเร็วติดลมบนมีอัตราไหลลื่นไม่รู้สึกผิดแปลกอะไร กับเครื่องยนต์ขนาดอื่น จนกระทั่งช่วงจังหวะ เร่งแซงที่อาจจะต้อง จับจังหวะให้ดีพอสมควร ในการเรียกรอบเรียกกำลังอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องชื่นชม คือ ช่วงล่างที่อีซูซุเคลมไว้ว่าเป็นช่วงล่างแห่งอนาคตที่ผสานการกระจายน้ำหนัก ด้วยการจัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์เยื้องหลังเพลาหน้าแบบ Semi-midship เช่นเดียวกับรถสปอร์ตนั้น ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อม Stabilizer Bar และคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ พร้อมโช้กอัพแก๊ส และช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension พร้อม Stabilizer Bar เป็นช่วงล่างที่ซับแรงกระแทกได้ดีและให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนได้อย่างมั่นใจเลยทีเดียว พร้อมอุ่นใจได้กับระบบความปลอดภัย ทั้งในขณะขับขี่ (Active Safety) และระบบป้องกันและปกป้อง ทุกชีวิตจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (Passive Safety) ตามแบบฉบับอีซูซุก็เสริมให้มั่นใจได้ดียิ่งขึ้น
สรุปรวบยอดสำหรับ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เป็นรถยนต์คันหนึ่งที่น่าสนใจด้วยเรื่อง ของอัตราการประหยัด ด้วยความที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กลงได้อย่างน่าสนใจ พร้อมด้วยราคาค่าตัวที่ 1.09-1.36 ล้านบาท ซึ่งรุ่นที่ได้นำเสนอ ไปข้างต้นนั้นเป็นรุ่นท็อปสุดของรุ่นที่ราคา 1.36 ล้านบาท
หากแต่อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ก็ยังมีทางเลือกให้ในรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที สำหรับผู้ที่ยังรักในเครื่องยนต์ ขนาดใหญ่ไว้รองรับ ราคาเริ่มต้น 1.36-1.47 ล้านบาท
จะเครื่องเล็กเครื่องใหญ่ก็ลองไปดูไปสัมผัสกันก่อนก็คงไม่เสียหายอะไร ...อยู่ที่ใจรัก!!!
ที่มา : โพสต์ทูเดย์
|