มิตซูบิชิสร้างสถิติยอดขาย "แอททราจ" ทั่วโลก 5.5 แสนคัน ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ปี แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและการยอมรับจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์อีโคคาร์ได้เป็นอย่างดี
โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ใช้ในบ้านเรามากกว่า 126,000 คัน และผู้ใช้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกไม่น้อยกว่า 424,000 คัน
อะไรที่ทำให้อีโคคาร์จากค่ายมิตซูบิชิโดดเด่น เชิญไปหาคำตอบกันเลย
"อนงค์ ศุภราวงศ์" ผอ.ใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดทริปทดสอบอีโคคาร์ มิตซูบิชิ มิราจ และแอททราจ ใหม่ โมเดล 2016 ที่เพิ่งผ่านเงื่อนมาตรฐานการลงทุนอีโคคาร์เฟส 2 ซึ่งทำให้รถทั้ง 2 รุ่นมีครบเครื่องในการยกระดับมาตรฐานอีโคคาร์
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ มิตซูบิชิเลือกใช้เส้นทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เป็นการทดสอบในรูปแบบคาราวาน มุ่งหน้าสู่เมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา
จุดขายที่มิตซูบิชินำมาใส่ เริ่มจาก Smart Stylish การออกแบบภายนอกใหม่ เติมความสดใส ด้วยสีใหม่ ทั้งสีแดง (Wien Red), สีส้ม (Sunrise Orange) และสีไทเทเนียม (Titanium Grey)
ติดตั้งไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์แบบ Bi-XENON HID และไฟหรี่ Spectrum LED ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและสะกดสายตาได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ เน้นความสปอร์ต ตัดกับสีโครเมียม
เมื่อเข้ามานั่งภายในห้องโดยสารของเจ้าแอททราจ ยังคงให้ความรู้สึกโอ่อ่า ล้ำสมัย ด้วยเบาะหนังที่เดินเส้นด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนัง วัสดุภายในสีดำแบบ Piano Black
ครบครันด้วยระบบความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวก ให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารได้เพลิดเพลินตลอดเวลา ที่สำคัญหน้าจอควบคุมด้วยระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว
ส่วนด้านความปลอดภัยนั้น ทีมงานได้ใช้แนวคิด Smart Safety ทำให้รถทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัย ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ RISE Body และโครงสร้างส่วนรับแรงกระแทกที่ผลิตจากเหล็ก "High Ten-sile Steel" มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ
ระบบเสริมความปลอดภัยทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง ระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (FCM-LS : Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) (RMS-Forward Radar Sensing Misacceleration Mit-igation System-Forward) และที่ขาดไปไม่ได้คือ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TLC-Traction Control)
มีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) รวมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า (Dual SRS) เรียกว่า มิตซูบิชินำความปลอดภัยมาใส่ไว้ในรถอีโคคาร์แบบจัดเต็ม
ซึ่งระหว่างการทดสอบช่วงเส้นทางภายในตัวเมืองฉะเชิงเทรา สภาพการจราจรหนาแน่น และต้องขับซอกแซกผ่านย่านชุมชนตลาด ทำให้สัมผัสถึงความคล่องตัว
เรียกความประทับใจได้ไม่น้อย แถมระบบการเตือนการชนด้านหน้ายังมีโอกาสได้ใช้ เมื่อรถคันหน้าเบรกกะทันหัน และรถเราเข้าไปใกล้ ทำให้ระบบได้โชว์แบบไม่มีเตรียม
ส่วนประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์นั้น ต้องบอกว่า เกินตัว... Smart Performance แม้จะเป็นเครื่องเล็กแค่ 1.2 ลิตร วาล์วแปรผันไอดี MIVEC แต่ประสิทธิภาพความจี๊ดจ๊าดของเครื่องยนต์ซึ่งทำงานประสานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT เรียกม้าจำนวน 78 ตัว ที่ 6,000 รอบต่อนาทีได้แบบทันอกทันใจ
ยิ่งเมื่อกดแป้น เรียกความเร็ว เครื่องยนต์พร้อมตอบสนองทันที
จัดเป็นรถที่ขับสนุกติดอยู่นิดคือเสียงของแรงลมที่ปะทะเข้ามาในห้องโดยสารเมื่อทำความเร็ว และที่ทีมงานมิตซูบิชิ ยังไม่ลืมตอกย้ำจุดขายสุดท้าย ที่มิตซูบิชิได้เคลมไว้ คือ Smart Saving ว่า มิราจให้ความประหยัดที่ 23.8 กม./ลิตร ส่วนแอททราจ มิตซูบิชิ เคยบอกว่า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร
อย่างไรก็ตาม "ประชาชาติธุรกิจ" นั้นยังยืนยันว่า อัตราสิ้นเปลืองหรือประหยัดนั้น สำคัญที่สุดคือ "พฤติกรรมการขับขี่" มากกว่า
สำหรับผู้ที่สนใจอีโคคาร์ไว้ใช้งาน ทางเลือกจากค่ายมิตซูบิชิ คือ มิราจ 383,000-587,000 บาท ส่วนแอททราจ 456,000-594,000 บาท ถือว่าน่าคบหาไม่น้อย
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ข้อมูลสเปครถ : Mitsubishi Mirage 2016
|