ครบขวบปีสำหรับการเปิดตัว มาสด้า บีที-50 โปร พอดิบพอดี พร้อมการเดินหน้าทำตลาดประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จัด คาราวานประวัติศาสตร์มาสด้าเปิดประตูสู่อาเซียน นำโดย โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์และผู้จัดการอาวุโสฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ ร่วมเดินทางตลอดการเดินทางครั้งนี้
เส้นทางของการเดินทางระยะยาวครั้งนี้ มาสด้า ลากเส้นบนแผนที่ยาวเหยียดตั้งแต่กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า - กรุงเทพฯ บนเส้นทางแห่งความท้าทาย เพื่อให้ได้สัมผัสสมรรถนะอย่างถึงใจ ซึ่งการเดินทางใช้เวลารวม 4 วัน ระยะทาง 1,000 กิโลเมตร กับการสัมผัสอารยธรรมหงสาวดี ดินแดนแห่งสุวรรณภูมิ ตลอดเส้นทาง
คอนเซปต์การเดินทางในครั้งนี้สอดคล้องลงตัวกับคอนเซปต์แบรนด์สไตล์ ZOOM-ZOOM กับสภาพท้องถนนที่ค่อนข้าง จะสมบุกสมบันขึ้นเขาลงห้วยทุกรูปแบบไปพร้อมๆ กับ มาสด้า บีที-50 โปร ที่มาพร้อมคอนเซปต์แบบฮีโร่ ขับเคลื่อนทุกสิ่ง...ให้เป็นจริงได้ ซึ่งมาพร้อมราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 5.89-9.88 แสนบาท
กระบะ มาสด้า บีที-50 โปร รูปลักษณ์ภายนอกได้ถูกออกแบบให้ฉีกกฎของการออกแบบกระบะแบบเดิมๆ ด้วยการผสมผสาน แนวคาดการออกแบบที่เน้นความสวยงามมีสไตล์ควบคู่กับการใช้งาน ซึ่งมองว่าตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้ายมี ความหวาน ของเส้นสายการออกแบบและรูปทรง แต่ซ่อน ความดุดัน ในแบบฉบับกระบะอย่างลงตัว ซึ่งใครจะคิดว่าวันหนึ่ง จะมีคนขับรถกระบะไปงานแต่งงานหรืองานสังคมได้อย่าง โก้หรู และวันนั้นก็มาถึงด้วย มาสด้า บีที-50 โปร คันนี้
ส่วนภายในห้องโดยสาร เน้นความรู้สึกสปอร์ตและการออกแบบเช่นเดียวกันกับรถยนต์นั่ง จึงทำให้มีความกว้างขวางสะดวกสบาย พร้อมการให้สีสันที่กระตุ้นต่อมความเป็นสปอร์ตด้วยสีดำกับสีเงิน ซึ่งวัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูงในการผลิตให้ความรู้สึกแข็งแรงและทนทาน มาพร้อมอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เครื่องเสียงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ AUX, CD และสมาร์ตโฟนตระกูล ไอ ที่สามารถรองรับการเล่นเต็มรูปแบบ
ขณะที่ขุมพลังเครื่องยนต์ของ มาสด้า บีที-50 โปร มีด้วยกัน 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล |Di-THUNDER PRO ขนาด 3.2 ลิตร และ 2.2 ลิตร ที่มาพร้อมระบบส่งกำลัง (เกียร์) อัตโนมัติและธรรมดา 6 สปีด ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะด้วยขุมพลัง ของเครื่องยนต์ใหม่ที่ให้พละกำลังและแรงบิด ที่เรียกเมื่อไหร่มาเต็มทุกที...แต่บางช่วงจังหวะ เช่น จังหวะเร่งแซงจะมีจังหวะหยุดคิดของเกียร์ (อัตโนมัติ) ทำให้อาจจะต้องเรียนรู้จังหวะกันสักเล็กน้อย ส่วนอื่นๆ ต้องบอกเลยว่า เจ๋งจริง
เครื่องยนต์ดีเซล Di-THUNDER PRO ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ใหม่ โดยเฉพาะในรุ่น 3.2 ลิตร ที่เป็นครั้งแรกของมาสด้า ที่ทำเครื่องยนต์แบบ 5 สูบ ที่ให้ความจุกระบอกสูบขนาดใหญ่แต่กะทัดรัด ให้ประสิทธิภาพและสมรรถนะที่ดีเมื่อเทียบกับรถกระบะ ในท้องตลาดด้วยการให้พละกำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ
ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล Di-THUNDER PRO ในรุ่น 2.2 ลิตร คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น 4 สูบ 16 วาล์ว พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบ แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ ซึ่งมาสด้าเคลมไว้ว่าให้กำลังมากกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่มีอยู่ในตลาดเสียด้วยซ้ำ
ด้านระบบความปลอดภัยในกระบะสไตล์หรูคันนี้ก็ไม่น้อยหน้า จัดเต็มมาด้วยอักษรภาษาอังกฤษ 3 หลัก เพียบ! เริ่มตั้งแต่ ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกฉุกเฉิน (EBA) ระบบอัตโนมัติตัดการทำงานเมื่อกดคันเร่งและเบรก ในเวลาเดียวกัน (BOS) สัญญาณเตือนเบรกฉุกเฉิน (ESS) ระบบควบคุมการทรงตัวเมื่อบรรทุก (LAC) ระบบช่วยการทรงตัวของรถขนาดลากจูง (TSA) ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (RSC) ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HLA) จัดเต็มมากๆ!!
ส่วนช่วงล่างและระบบการควบคุม ถูกออกแบบและพัฒนาให้ได้การขับขี่ที่นุ่มสบาย เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งและควบคุมได้ดังเช่นรถตรวจการ ด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้า อิสระแบบปีกนกคู่และคอยล์สปริง ด้านหลังแบบคานแข็งและชุดแหนบ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง และเสถียรภาพในการควบคุม รวมไปถึงระบบบังคับเลี้ยวแรคแอนพีเนียนที่ใช้เช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง
แต่ที่สัมผัสได้ตลอดเส้นทางการขับขี่ของช่วงล่าง มาสด้า บีที-50 โปร คือความตั้งใจ ที่อยากจะให้สะดวกสบายเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง จึงรู้สึกได้ถึงความโดดเด้ง และอาการของช่วงล่าง การเกาะถนนขณะเข้าโค้งได้อยู่บ้าง แต่ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับ พอใช้ ไม่ขี้เหร่จนน่าเกลียดสักเท่าไร ขณะที่ความแม่นยำของพวงมาลัยจุดนี้ ถือได้ว่าน้ำหนักและการบังคับสะดวกและง่ายต่อการบังคับ
ทั้งหมดของ มาสด้า บีที-50 โปร ไม่ว่าจะเป็น ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย รวมไปถึงความสะดวกตลอดการขับขี่ จากอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกต่างๆ ทำให้ช่วงเวลา 4 วัน 1,000 กิโลเมตร จากพม่า-กรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องยากของการขับขี่ ข้ามประเทศเลย
ด้วยบททดสอบต่างๆ ของสภาพภูมิอากาศและสภาพท้องถนนที่ต่างจากประเทศไทย ถือได้ว่า มาสด้า บีที-50 โปร ผ่าน !! บททดสอบของ คาราวานประวัติศาสตร์มาสด้าเปิดประตูสู่อาเซียน ในครั้งนี้ได้อย่างสบายๆ
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ออนไลน์[11072 Views]
|